หลังจากรายการ The X Factor เวอร์ชั่นอเมริกา จะดูมีปัญหากับเวลาออกฉายมาก เพราะถูกเลื่อนบ้างไรบ้าง หลังจากไปชนกับช่วงเวลาถ่ายทอดอเมริกันฟุตบอล แต่ในที่สุดก็ได้เวลาเฉลย 16 คนสุดท้ายที่ได้เข้าสู่รอบไลฟ์โชว์
เริ่มที่ฝ่ายชายก่อนแล้วกัน 4 คนสุดท้ายที่ผ่านการคัดเลือกโดย แอล.เอ. รี๊ด มีดังนี้ คนแรกเลยที่ถูกคือ ฟิลลิป โลแมกซ์ (Phillip Lomax) ที่พกแนวเพลงแจ๊สเข้าแข่งขัน ตามติดด้วย ไบรอัน แบรดเลย์ (Brian Bradley) แรพเปอร์หนุ่มน้อย ที่พกความมั่นใจและความสามรถมาแบบเต็มเปี่ยม แอล.เอ. ยกให้ระดับความสามารถของไบรอันนี้เป็น ‘แชมเปี้ยน’ เลยทีเดียว คนที่ได้เข้ารอบเป็นคนที่สามของฝ่ายชายได้แก่ คริส รีน (Chris Rene) ที่ได้เข้ารอบแบบเหนือความคาดหมาย MM มาก ด้วยรูปลักษณ์สไตล์นักเลง ขี้เมา สักเต็มตัว หวังว่าแอล.เอ. จะไม่ได้คิดผิด คนสุดท้ายที่ได้เข้าสู่รอบไลฟ์โชว์ได้แก่ มาร์คัส แคนตี้ (Marcus Canty) ที่เรียกว่าเห็นแววได้เข้าแบบไม่ต้องสงสัยมาตั้งแต่รอบออดิชั่น
ต่อกันที่นักร้องประเภทอายุเกิน 30 ปี แล้วกัน ประเภทที่ นิโคล มานั่งแท่นเป็นเมนเตอร์ตลอดการแข่งขัน คนแรกที่นิโครเลือกเข้ารอบได้แก่ จอช คราจิก (Josh Krajcik) หนุ่มมาดมิตรที่นิโคลแอบสงสัยว่าจะเป็นซุป’ตาร์ได้มั้ย แต่เธอก็ขอเสี่ยง คนที่สองที่ได้เข้ารอบได้แก่ เด๊กซ์เตอร์ เฮย์กู๊ด (Dexter Haygood) ซึ่ง MM ได้แต่อุทานเบาๆว่า....เฮ้อ! คนที่ 3 ที่ได้เข้ารอบได้แก่ ลีรอย เบลล์ (Leroy Bell) คุณลุงวัย 59 ที่ดูดีเหลือเชื่อ และคนสุดท้ายที่ถ้าไม่ได้เข้ามีหวัง เจ๊นิโคลโดนประชาชีแหกหัวแน่ คือเจ๊ตัวแม่ สเตซี่ ฟรานซิส (Stacy Francis)
มาที่นักร้องประเภทกลุ่มที่ พอลล่า อับดุล เป็นผู้นำทัพ เริ่มที่ สองพี่น้อง The Brewer Boys ... เอ่อ หรอ เอางั้นนะพอลล่า.... เอ่ออ โอเค! ถัดไปเลยเป็น 4 สาวคันทรี่กับชื่อวงแปลกๆว่า Lakoda Rayne ต่อด้วย Intensity 10 หนุ่มสาวที่ตกรอบประเภทเดี่ยว และมาจับรวมกลุ่มในช่วงท้ายของ Boot Camp อ่ะหะ High School Musical โก X! และกลุ่มสุดท้ายที่ได้เข้าสู่ไลฟ์โชว์ได้แก่ The Stereo Hoggz
มาที่ประเภทนักร้องหญิง ในมือของไซม่อน ผู้เจนจัดบนเวทีการประกวดร้องเพลงมานานนม เริ่มที่คนแรก ซีโมน แบทเทิล (Simone Battle) ที่เข้ารอบแบบงงๆ ว่าคนอื่นดีกว่านี้นะ! ต่อด้วย ดรูว์ รินนิวิคซ์ (Drew Ryniewicz) สาวน้อยวัย 14 ปี แฟนคลับตัวยงของจัสติน บีเบอร์ ที่เอาเพลง Baby มาร้องอคูสติคในรอบออดิชั่น เพื่อหวังเอาใจกรรมการทั้งสี่ โดยเฉพาะแอล.เอ. รี๊ดผู้อยู่เบื้องหลังหนุ่มจัสติน คนที่สามที่ไซม่อนเลือกได้แก่ เทียอา โทลลิเวอร์ (Tiah Tolliver) คนโปรดไซม่อน ตั้งแต่รอบออดิชั่นแล้ว ไม่แปลกใจที่ได้เข้า ส่วนคนที่สามนี่ ปวดหัวใจมาก เพราะคนที่เหลืออยู่ 2 คนสุดท้าย อย่าง ราเชล โคร์ว (Rachel Crow) และ เมลานี อมาโร่ (Melanie Amaro) MM แอบเชียร์ทั้งคู่ แต่สุดท้ายไซม่อนก็เลือก สาวน้อยราเชลเข้ารอบเป็นคนสุดท้าย และส่งตัวแม่ฝ่ายหญิงอย่างเมลานี่กลับบ้าน น่าเสียดายมาก T.T
สรุป 16 ตัวจริงรอบไลฟ์โชว์ได้แก่
แต่เอ๊ะ!!!! ก่อนจบรายการ ไซม่อนนั่งพล่ามว่าเขาตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ ก่อนจะลงมือทำอะไรบางอย่างที่ไม่คาดคิด เขาและทีมงานลงพื้นที่ไปบ้านใครบางคนและคนๆ นั้นก็ได้แก่ เมลานี อมาโร่ (Melanie Amaro) นั่นเอง โดยไซม่อนไปชวนเธอกลับมาแข่งอีกครั้งโดย สุดท้าย ตัวจริงที่ได้เข้าสู่รอบไลฟ์โชว์ของ The X Factor ซีซั่นแรกของอเมริกา มีทั้งหมด 17 คนได้แก่ ฟิลลิป โลแมกซ์ (Phillip Lomax), ไบรอัน แบรดเลย์ (Brian Bradley, คริส รีน (Chris Rene, มาร์คัส แคนตี้ (Marcus Canty), จอช คราจิก (Josh Krajcik, เด๊กซ์เตอร์ เฮย์กู๊ด (Dexter Haygood), ลีรอย เบลล์ (Leroy Bell), สเตซี่ ฟรานซิส (Stacy Francis), The Brewer, Lakoda Rayne, Intensity , The Stereo Hoggz , ซีโมน แบทเทิล (Simone Battle) , ดรูว์ รินนิวิคซ์ (Drew Ryniewicz, เทียอา โทลลิเวอร์ (Tiah Tolliver), ราเชล โคร์ว (Rachel Crow) และ เมลานี อมาโร่ (Melanie Amaro)
ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลย รอบแรก มีคนออกมากกว่า 1 คนแน่ๆ!
